วัดพญามังราย


โพสต์เมื่อ 7 ก.พ. 2021

ชื่ออื่น : วัดพระเจ้ามังราย

ที่ตั้ง : ม.1

ตำบล : ท่าวังตาล

อำเภอ : สารภี

จังหวัด : เชียงใหม่

พิกัด DD : 18.752432 N, 98.997393 E

เขตลุ่มน้ำหลัก : ปิง

เส้นทางเข้าสู่แหล่ง

จากวัดเจดีย์เหลี่ยม ให้เข้าทางซอยเจดีย์เหลี่ยม 4 ประมาณ 220 เมตร โบราณสถานจะอยู่ทางซ้ายมือ

ประโยชน์ทางการท่องเที่ยว

เป็นแหล่งท่องเที่ยว

รายละเอียดทางการท่องเที่ยว

วัดพญามังรายเป็นโบราณสถานที่ได้รับการขุดแต่งแล้ว นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าเข้าชม

หน่วยงานที่ดูแลรักษา

กรมศิลปากร

การขึ้นทะเบียน

ขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากร

รายละเอียดการขึ้นทะเบียน

ประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 118 ตอนพิเศษ 127ง วันที่ 21 ธันวาคม 2544 (วัดพญามังราย(วัดพระเจ้ามังราย))

ภูมิประเทศ

ที่ราบ

สภาพทั่วไป

วัดพญามังรายเป็นโบราณสถานร้าง ตั้งอยู่ใกล้กับกำแพงเมืองเวียงกุมกามทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และอยู่ทางทิศเหนือของวัดพระเจ้าองค์ดำ ห่างกันประมาณ 30 เมตร อยุ่ห่างจากแม่น้ำปิงมาทางทิศตะวันออกประมาณ 350 เมตร

สภาพก่อนการขุดแต่ง เป็นเนินโบราณสถานขนาดใหญ่ คู่กัน 2 เนิน ชาวบ้านเรียกกันว่า เนินพญามังรายและเนินพระเจ้าองค์ดำ อยู่ภายในเขตสวนลำไยของชาวบ้าน

ปัจจุบันบริเวณโบราณสถานแวดล้อมด้วยสวนและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน

ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

304 เมตร

ทางน้ำ

แม่น้ำปิง

สภาพธรณีวิทยา

เป็นบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ ถูกทับถมด้วยตะกอนที่เป็นทรายและหินกรวด ในสมัยโฮโลซีน

ยุคทางโบราณคดี

ยุคประวัติศาสตร์

สมัย/วัฒนธรรม

สมัยล้านนา

อายุทางโบราณคดี

พุทธศตวรรษที่ 20–21

ประวัติการศึกษา

ชื่อผู้ศึกษา : กรมศิลปากร

ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2532

วิธีศึกษา : ขุดแต่ง

ผลการศึกษา :

พบกลุ่มโบราณสถานวัดพญามังราย ประกอบด้วย วิหารตั้งอยู่หน้าเจดีย์ หันหน้าสู่ทิศเหนือ ฐานอาคาร 1 หลัง ทางทิศตะวันตกของเจดีย์ กำแพงแก้วเฉพาะด้านทิศเหนือ และซุ้มโขง

ชื่อผู้ศึกษา : มิตรเมืองเก่า 2544 (หจก.)

ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2555

วิธีศึกษา : บูรณปฏิสังขรณ์, ปรับปรุงภูมิทัศน์

องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร

ผลการศึกษา :

ห้างหุ้นส่วนจำกัด มิตรเมืองเก่า 2544 บูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์โบรารสถานวัดพญามังราย ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 - 11 มิถุนายน 2555

ประเภทของแหล่งโบราณคดี

ศาสนสถาน

สาระสำคัญทางโบราณคดี

วัดพญามังรายเป็นโบราณสถานร้าง แต่เดิมเป็นเนินดินขนาดใหญ่คู่กับวัดพระเจ้าองค์ดำ ชื่อของโบราณสถานเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันตั้งแต่โบราณสถานยังมีสภาพเป็นเนินดิน โดยเรียกว่า เนินพญามังราย ซึ่งตั้งอยู่คู่กับเนินพระเจ้าองค์ดำ ภายหลังจากการขุดแต่ง จึงแยกออกเป็นวัดพญามังรายและวัดพระเจ้าองค์ดำ

กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดแต่งโบราณสถานวัดพญามังราย ในปี พ.ศ. 2532 (กรมศิลปากร 2548 : 91) พบข้อมูลของโบราณสถานและโบราณวัตถุ ดังนี้

โบราณสถานวัดพญามังราย ประกอบด้วย วิหาร เจดีย์ ฐานอาคาร และแนวกำแพงแก้ว

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม

1. วิหาร เป็นวิหารโถงในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปัจจุบันปรากฏเฉพาะส่วนฐานปัทม์ที่ประดับด้วยลูกแก้วอกไก่คู่ ด้านหลังวิหารเป็นห้องประดิษฐานพระประธาน มีการสร้างฐานชุกชีเต็มพื้นที่ห้องเช่นเดียวกับวัดกู่อ้ายสี วัดกู่อ้ายหลาน วัดกู่ป้าด้อม และวัดกุมกาม เป็นต้น ถัดจากห้องนี้ มีคูหาท้ายวิหาร (คันธกุฎี) เป็นแบบเดียวกับวิหารวัดกานโถม วัดปู่เบี้ย และวัดอีค่าง เป็นต้น

พื้นของวิหารปูด้วยอิฐ มีเสาจำนวน 3 คู่ ฐานเสาทำด้วยหินแกรนิต มีบันไดหลักตรงมุมยกเก็จทางทิศตะวันตกด้านหน้าวิหาร และยังมีบันไดเล็กที่ท้ายวิหารด้านทิศตะวันตกเช่นเดียวกัน โครงสร้างหลังคาทำด้วยไม้ มุงด้วยกระเบื้องดินขอ

2. เจดีย์ ตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร ปัจจุบันคงเหลอเฉพาะส่วนฐานเขียงตอนล่างในผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส รองรับฐานหน้ากระดานยกเก็จซ้อนกัน 2 ชั้น เหนือขึ้นไปเป็นชั้นฐานปัทม์ประดับด้วยลูกแก้วอกไก่ยกเก็จ ซึ่งชิ้นส่วนลวดลายปูนปั้นประดับยอดซุ้มและปลายซุ้มจระนำที่พบบริเวณยอดฐานเจดีย์ มีความเป็นไปได้ว่าเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ทรงปราสาท ที่เรือนธาตุประดับซุ้มจระนำทั้งสี่ด้าน

3. ฐานอาคาร สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวิหารโถงในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตั้งอยู่ในบริเวณด้านทิศตะวันตกของวิหารและเจดีย์

โบราณวัตถุที่พบ

โบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระพุทธรูปสำริดขนาดต่างๆ และชิ้นส่วนพระพุทธรูปสำริดในศิลปะล้านนา ราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21

นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนลายปูนปั้นเป็นจำนวนมากบริเวณฐานเจดีย์ มีชิ้นที่สำคัญได้แก่ ลวดลายพันธุ์พฤกษาที่ใช้ประดับซุ้มจระนำ ซึ่งเทียบได้กับลวดลายปูนปั้นที่วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจ็ดยอด) กำหนดอายุในต้นพุทธศตวรรษที่ 21 และรูปสิงห์ปูนปั้นในกรอบลูกฟัก ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับปูนปั้นประดับฐานกรอบซุ้มโขงที่วัดหัวหนอง เวียงกุมกาม มีอายุสมัยราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21

การกำหนดอายุสมัย

จากการพิจารณารูปแบบทางสถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุที่พบ สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในระยะเดียวกับวัดพระเจ้าองค์ดำ คือช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 21

ผู้เรียบเรียงข้อมูล-ผู้ดูแลฐานข้อมูล

ชัยวัฒน์ ศิริซุ้มสุวรรณ, ทนงศักดิ์ เลิศพิพัฒน์วรกุล

บรรณานุกรม

กรมศิลปากร. โบราณคดีสามทศวรรษที่เวียงกุมกาม. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2548.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดี