โพสต์เมื่อ 13 ก.ค. 2020
ชื่ออื่น : วัดเขาสุวรรณคีรี
ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย
ตำบล : ศรีสัชนาลัย
อำเภอ : ศรีสัชนาลัย
จังหวัด : สุโขทัย
พิกัด DD : 17.433383 N, 99.781939 E
เขตลุ่มน้ำหลัก : ยม
วัดเขาสุวรรณคีรีตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือภายในเมืองศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่บนเขาสุวรรณคีรี ถัดจากวัดเขาพนมเพลิงไปประมาณ 200 เมตร มีบันไดทางขึ้นทางด้านหน้า หน้าวัดหันไปทางทิศตะวันออก
การเดินทางมายังอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยนั้น สามารถเดินทางเข้ามาได้หลายวิธี ดังนี้
1. รถโดยสารประจำทาง โดยมีรถประจำทางของบริษัทสุโขทัยวินทัวร์จากกรุงเทพฯ (สถานีขนส่งหมอชิต)ทุกวัน
2. รถไฟ เส้นทางกรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์ ลงที่สถานีสวรรคโลก จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทาง
3. เครื่องบิน มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ-สุโขทัย วันละ 2 เที่ยว
4. รถส่วนตัว จากตัวเมืองสุโขทัย ใช้ทางหลวงหมายเลข 101 เส้นสุโขทัย-สวรรคโลก-ศรีสัชนาลัย ไปจนถึงระหว่างกิโลเมตรที่ 17 - 19 เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานแม่น้ำยม จะมีทางแยกขวาเข้าอุทยานฯ ไป ประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นระยะทาง 68 กิโลเมตร หรือ หรือ จากอำเภอสวรรคโลกไปตามทางหลวงหมายเลข 1201 ไปจนถึงตำบลเมืองเก่า บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำยมแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯ อีก 2 กิโลเมตร รวมระยะทาง 22 กิโลเมตร
วัดสุวรรณคีรีเป็นวัดที่สำคัญของเมืองศรีสัชนาลัย อยู่ภายในเขตกำแพงเมือง ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของไทยอีกแห่งหนึ่ง วัดเขาสุวรรณคีรีสามารถมองเห็นยอดเจดีย์ที่สูงเด่นเป็นสง่าได้จากทางเข้าจุดขายบัตรเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขาสูงและเจดีย์มีขนาดใหญ่ ทรวดทรงสัดส่วนสวยงาม ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยเสียค่าธรรมเนียมเข้าชมรวมกับการเข้าชมอุทยาน
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมื่อปี พ.ศ.2533 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อ พ.ศ.2534 ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ในฐานะเมืองบริวารของสุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่มาเยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่าง ดังนี้
- ศูนย์บริการข้อมูลที่เปิดให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยและประวัติศาสตร์ของเมืองศรีสัชนาลัย เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่ประชาชนและผู้ที่สนใจสามารถค้นคว้าข้อมูลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- เจ้าหน้าที่นำชมโบราณสถาน/วิทยากร ที่คอยแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ และพร้อมนำชมโบราณสถานในเขตอุทยานฯทุกวัน
- แผ่นพับประชาสัมพันธ์และป้ายอธิบายโบราณสถานแต่ละแห่ง
- เส้นทางท่องเที่ยวภายในอุทยานฯที่สะดวกสบาย เชื่อมโยงโบราณสถานแต่ละแห่ง
- ป้ายบอกทางไปโบราณสถานเป็นระยะ
- จักรยานและรถรางในพื้นที่ภายในกำแพงเมือง
อัตราค่าเข้าชมสำหรับชาวไทย 20 บาท และ 40 บาท(สำหรับบัตรรวม) สามารถเข้าชมภายในอุทยานฯ วัดชมชื่น และแหล่งอนุรักษ์เตาเผาสังคโลกหมายเลข 61 และ 42
ค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 100 บาท และ 220 บาท (สำหรับบัตรรวม)
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วย เช่น ค่าเช่าจักรยานคันละ 20 บาท สำหรับชาวไทย, ค่ารถรางคนละ 20 บาท สำหรับชาวไทย และ 40 บาทสำหรับชาวต่างชาติ หรือเหมาคันละ 300 บาท (ไม่เกิน 15 คน) *จักรยานและรถรางเป็นสัมปทานเอกชน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้*
สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าชมได้ที่ สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย โทรศัพท์ 055 679211
กรมศิลปากร
ขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากร
วัดเขาสุวรรณคีรีเป็นโบราณสถานที่อยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ซึ่งมีรายละเอียดของการประกาศขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากร รายละเอียดดังต่อไปนี้
1. กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดเขาสุวรรณคีรี โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม 2478 หน้า 3702 โดยในขณะนั้น ประกาศขึ้นทะเบียนเพียงแค่ชื่อเท่านั้น ไม่ได้กำหนดขอบเขตของโบราณสถานแต่อย่างใด
2. กรมศิลปากร ประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 105 ตอนที่ 57 ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2531 เนื้อที่ 28,217 ไร่ หรือ 45.14 ตารางกิโลเมตร มี โบราณสถาน 283 แห่ง ทั้งในและนอกกำแพงเมือง โดยโบราณสถานวัดเขาสุวรรณคีรีเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
ขึ้นทะเบียนของ UNESCO
วันที่ 12 ธันวาคม 2534 ที่เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย เป็นมรดกโลกตามบัญชีลำดับที่ 574
วัดเขาสุวรรณคีรีตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือภายในเมืองศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่บนเขาสุวรรณคีรี ซึ่งอยู่ถัดจากเขาพนมเพลิงและวัดเขาพนมเพลิงไปทางด้านทิศตะวันตก โดยอยู่ในเทือกเขาเดียวกัน เขาสูงประมาณ 45 เมตร
โบราณสถานตั้งห่างจากคูเมืองด้านทิศตะวันตกมาทางทิศตะวันออกประมาณ 100 เมตรเศษ ห่างจากคูเมืองด้านทิศเหนือมาทางทิศใต้ประมาณ 250 เมตร ห่างจากแม่น้ำยมมาทางทิศตะวันตกประมาณ 600 เมตร
กลุ่มโบราณสถานมีกำแพงล้อมรอบ องค์เจดีย์ทรงลังกาขนาดใหญ่ ทรวดทรงสัดส่วนสวยงาม ด้านหน้ามณฑปมีรั่วเตี้ยๆ ทำเป็นช่องปรุเหลี่ยมคล้ายวัดช้างล้อม
เมืองโบราณศรีสัชนาลัย มีสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองเป็นที่ราบเชิงเขาพระศรีและเขาใหญ่ ทางด้านทิศตะวันตก และมีลำน้ำยมอยู่ทางด้านทิศตะวันออก
พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดสุโขทัยจะเป็นที่ราบลุ่ม ทางตอนเหนือและตอนใต้ของจังหวัดมีลักษณะเป็นที่ราบสูง มีเขาหลวงเป็นภูเขาที่มีความสูงที่สุด วัดจากระดับน้ำทะเลมีความสูงประมาณ 1,200 เมตร โดยมีแนวภูเขายาวเป็นพืดทางด้านทิศตะวันตก ส่วนพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดจะเป็นที่ราบ มีแม่น้ำยมไหลผ่านจากทิศเหนือจรดทิศใต้ ผ่านอำเภอศรีสัชนาลัย อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง อำเภอเมืองสุโขทัย และอำเภอกงไกรลาศ ช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดสุโขทัยยาวประมาณ 170 กิโลเมตร
อำเภอศรีสัชนาลัยตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของจังหวัดสุโขทัย มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
1. ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอวังชิ้นและอำเภอเด่นชัย (จังหวัดแพร่)
2. ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอลับแลและอำเภอตรอน (จังหวัดอุตรดิตถ์)
3. ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอศรีนคร อำเภอสวรรคโลก และอำเภอทุ่งเสลี่ยม
4. ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเถิน (จังหวัดลำปาง)
แม่น้ำยม
ลักษณะทางธรณีวิทยาบริเวณอำเภอศรีสัชนาลัย มีสภาพเป็นหินเชล (Shale) สี Olive หรือสี Grey จนถึงสี Dark Grey พบเป็นผืนใหญ่ตั้งแต่พื้นที่ นอกจากนี้ยังพบว่ามีลักษณะ ของหินปูน (Limestone) สีจาง เนื้อละเอียดแทรกอยู่บริเวณตอนกลางของต้นน้ำห้วยแม่สานอีกด้วย
ลักษณะทางปฐพีวิทยานั้น เป็นดินที่เกิดอยู่กับที่ (Residual soil) เกือบทั้งสิ้น เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภูเขาที่มีความลาดชัน จึงจัดหน่วยของดินนี้ไว้เป็นที่ลาดเชิงซ้อน (Slope complex) ดินที่เกิดขึ้นจึงเป็นดินที่เกิดอยู่กับที่ที่มีการพัฒนาดินไปได้ค่อนข้างดี ดินเหล่านี้ มีป่าเบญจพรรณขึ้น ปกคลุมโดยทั่วไป มีความชื้นค่อนข้างสูง
ชื่อผู้ศึกษา : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2450
วิธีศึกษา : สำรวจ
ผลการศึกษา :
ในพระราชนิพนธ์เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วง ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกล่าวว่า “...แต่ถึงแม้ได้บูชากูณฑ์บนเขานี้จริง น่าจะไปบูชาบนยอดเขาที่เรียกว่าสุวรรณคีรีซึ่งเป็นยอดสูง และชื่อพนมเพลิงน่าจะมุ่งหมายเรียกรวมทั้งสอบยอดเป็นเขาอันเดียว ชื่อสุวรรณคีรีน่าจะเป็นชื่อภายหลัง...”ชื่อผู้ศึกษา : กรมศิลปากร
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2478
วิธีศึกษา : ประกาศขึ้นทะเบียน
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
กรมศิลปากร ประกาศกำหนดจำนวนโบราณสถานระดับชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ลงวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 หน้า 3702 ในขณะนั้นเพียงแต่ประกาศแค่ชื่อเท่านั้น (ชื่อที่ใช้ในประกาศฯคือ เขาสุวรรณคีรี) แต่ยังไม่ได้กำหนดขอบเขตโบราณสถานแต่อย่างใดชื่อผู้ศึกษา : พิทยา ดำเด่นงาม, ประโชติ สังขนุกิจ
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2508, พ.ศ.2509, พ.ศ.2510, พ.ศ.2511, พ.ศ.2512
วิธีศึกษา : บูรณปฏิสังขรณ์, ประวัติศาสตร์ศิลปะ, ขุดแต่ง
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
พิทยา ดำเด่นงาม และประโชติ สังขนุกิจ เรียบเรียงรายงานการสำรวจและขุดแต่งบูรณะโบราณวัตถุสถานเมืองเก่า กำแพงเพชร เมืองศรีสัชชนาลัย พ.ศ.2508-2512 โดยคณะกรรมการปรับปรุงบูรณะโบราณสถาน จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดกำแพงเพชร กรมศิลปากร พิมพ์เผยแพร่เมื่อ พ.ศ.2514 สำหรับวัดเขาสุวรรณคีรีที่ดำเนินงานในครั้ง กรมศิลปากรดำเนินการขุดแต่งและบูรณะ ภายในวัดประกอบด้วยเจดีย์ทรงลังกาขนาดใหญ่ ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสทำเป็นชั้นเล็กๆ ขึ้นไป ด้านหลังมีเจดีย์ลังกาขนาดย่อมอีกองค์หนึ่ง ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว ในวิหารมีแท่นพระอยู่ 2 แท่น และหลังแท่นพระเป็นเจดีย์ทรงลังกาเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนฐานใหญ่อันเดียวกันชื่อผู้ศึกษา : กรมศิลปากร
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2530
วิธีศึกษา : บูรณปฏิสังขรณ์
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
กรมศิลปากรบูรณะฐานเขียงชั้นที่ 2 ศาลา และบันไดทางขึ้นวัดชื่อผู้ศึกษา : กรมศิลปากร
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2531
วิธีศึกษา : ประกาศขึ้นทะเบียน
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
กรมศิลปากร ประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 105 ตอนที่ 57 ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2531 เนื้อที่ 28,217 ไร่ หรือ 45.14 ตารางกิโลเมตร มี โบราณสถาน 283 แห่ง ทั้งในและนอกกำแพงเมือง โดยโบราณสถานวัดเขาสุวรรณคีรี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยชื่อผู้ศึกษา : กรมศิลปากร
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2532
วิธีศึกษา : บูรณปฏิสังขรณ์
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
กรมศิลปากรบูรณะฐานเขียงชั้น1ชื่อผู้ศึกษา : ไกรสินธุ์ อุ่นใจจินต์
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2534
วิธีศึกษา : ประวัติศาสตร์ศิลปะ, ศึกษาสถาปัตยกรรม
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : เมืองโบราณ
ผลการศึกษา :
ไกรสินธุ์ อุ่นใจจินต์ ศึกษาการอนุรักษ์และการบำรุงรักษาโบราณสถานในจังหวัดสุโขทัย แผยแพร่เป็นบทความเรื่อง “ลักษณะ เจดีย์ทรงระฆัง 3 แบบ ที่ศรีสัชนาลัย = Three types of the bell-shaped chedis at Si Satchanalai.” ตีพิมพ์ในวารสารเมืองโบราณ. ปีที่ 17 ฉบับที่ 2 (เม.ย. - มิ.ย. 2534) หน้า 54-62 โดยเจดีย์ทรงระฆังที่วัดเขาสุวรรณคีรี เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในครั้งนี้ชื่อผู้ศึกษา : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2549
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : ม.ศิลปากร
ผลการศึกษา :
ภาควิชาศิลปะสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เผยแพร่ รายงานแบบสำรวจรังวัดโบราณสถานเมืองศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ใน พ.ศ.2549ชื่อผู้ศึกษา : สันติ เล็กสุขุม
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2551
วิธีศึกษา : ประวัติศาสตร์ศิลปะ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง
ผลการศึกษา :
ศ.ดร.สันติ เล็กสุขุม จัดทำรูปแบบสันนิษฐานของโบราณสถาน ของพื้นที่มรดกโลกสุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร และตีพิมพ์เผยแพร่ชื่อผู้ศึกษา : นารีรัตน์ ปรีชาพีชคุปต์
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2553
วิธีศึกษา : ประวัติศาสตร์
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร จัดทำหนังสือนำชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการดำเนินงานทางโบราณคดี ทั้งการสำรวจ การขุดค้นและการขุดแต่งที่ผ่านมาทั้งหมด ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าใจอดีตของแคว้นสุโขทัยได้มากยิ่งขึ้น โดยในหนังสือนำชมจะมีเนื้อหาของประวัติความเป็นมาของเมืองโบราณแต่ละแห่ง รวมทั้งรายละเอียดของโบราณสถานแต่ละแห่งในพระราชนิพนธ์เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วง ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “...แต่ถึงแม้ได้บูชากูณฑ์บนเขานี้จริง น่าจะไปบูชาบนยอดเขาที่เรียกว่าสุวรรณคีรีซึ่งเป็นยอดสูง และชื่อพนมเพลิงน่าจะมุ่งหมายเรียกรวมทั้งสอบยอดเป็นเขาอันเดียว ชื่อสุวรรณคีรีน่าจะเป็นชื่อภายหลัง...”
กลุ่มโบราณสถานบนเขาสุวรรณคีรีเป็นส่วนหนึ่งของวัดเขาสุวรรณคีรี มีกำแพงล้อมรอบ ประกอบไปด้วย
เจดีย์ประธาน เป็นเจดีย์ทรงกลมองค์ระฆังขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 44 เมตร ฐานเขียงขนาดใหญ่ 5 ชั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้สำหรับเป็นลานทักษิณ มีบันไดเชื่อมฐานแต่ละชั้น (ชั้นที่ 1-3) ทางด้านหน้าส่วนฐานเขียงชั้นที่ 4 มีการทำเป็นซุ้มพระบริเวณตอนกลางฐานทั้ง 4 ทิศ
ฐานวิหาร ก่อด้วยศิลาแลง ฐานรูปสี่เหลี่นมผืนผ้าขนาด 5 ห้อง กว้าง 11 เมตร ยาว 20.5 เมตร
เจดีย์ราย ก่อด้วยศิลาแลง เป็นเจดีย์ทรงกลมเช่นเดียวกับเจดีย์ประธาน ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างด้านละ 11 เมตร ด้านหน้ามีมณฑปขนาดเล็กตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงที่มีรั้วเตี้ยๆ ทำเป็นช่องปรุเหลี่ยมคล้ายวัดช้างล้อม ราวบันไดของมณฑปทำเป็นปูนปั้นม้วนเข้าเป็นวงกลม
ฐานเจดีย์รายทรงกลม ตั้งอยู่ทางด้านขวาของวิหาร ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 3 เมตร
ฐานเจดีย์ราย ตั้งอยู่ทางด้านหลังเจดีย์ประธาน ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้าง 2.2 เมตร
กลุ่มเจดีย์ (บ.น.9.5) อยู่ทางด้านซ้ายของเจดีย์รายหมายเลข 2 เป็นกลุ่มของเจดีย์ที่สร้างด้วยอิฐจำนวน 8 องค์ ตั้งอยู่ภายในกำแพงแก้วรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 11 เมตร ยาว 15 เมตร
ฐานวิหาร (บ.น.9.7) อยู่ด้านหลัง (บ.น.9.5) ก่อด้วยศิลาแลงขนาด 5 ห้อง ฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 13 เมตร ยาว 19.8 เมตร
กรมศิลปากร. “วัดเขาสุวรรณคีรี บน.9.” ใน ระบบฐานข้อมูลแหล่งมรดกศิลปวัฒนธรรมและระบบภูมิสารสนเทศ โครงการสำรวจแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม. (ออนไลน์). เข้าถึงเมื่อ 02 มีนาคม 2558. แหล่งที่มาhttp://www.gis.finearts.go.th/gisweb/viewer.aspx
กรมศิลปากร. ทำเนียบโบราณสถานศรีสัชนาลัย.กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2535.
ไกรสิน อุ่นใจจินต์. “เจดีย์ทรงระฆัง 3 แบบ ที่ศรีสัชนาลัย = Three types of the bell-shaped chedis at Si Satchanalai.” เมืองโบราณ. 17, 2 (เม.ย. - มิ.ย. 2534) : 54-62.
คณะอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสุโขทัย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2544.
จุฬรักษ์ ดำริห์กุล. ศรีสัชนาลัย มรดกโลกทางวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว, 2537.
ธิดา สาระยา. นำเที่ยวศรีสัชนาลัย. กรุงเทพฯ : สีดา, 2542.
ธิดา สาระยา. เมืองประวัติศาสตร์ : เมืองพิมาย เขาพระวิหาร เมืองอุบล เมืองศรีสัชชนาลัย. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, 2538.
ธิดา สาระยา. เมืองศรีสัชชนาลัย. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, 2537.
นารีรัตน์ ปรีชาพีชคุปต์. นำชมอุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร (Guide to Sukhothai Si Satchanalai and Kamphaeng Phet historical parks). กรุงเทพฯ : สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, 2553.
ประโชติ สังขนุกิจ. นำชมโบราณวัตถุสถาน ในอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย. พระนคร : กรมศิลปากร, 2513.
ประโชติ สังขนุกิจ. นำชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย (A guidebook to Si Satchanalai historical park). กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2535.
ประโชติ สังขนุกิจ. นำชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2535.
พันธลักษณ์ (นามแฝง). มรดกโลกในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : บ้านหนังสือ 19, 2547.
พิทยา ดำเด่นงาม และประโชติ สังขนุกิจ. รายงานการสำรวจและขุดแต่งบูรณะโบราณวัตถุสถานเมืองเก่า กำแพงเพชร เมืองศรีสัชนาลัย พ.ศ.2508-2512. พระนคร : กรมศิลปากร คณะกรรมการปรับปรุงบูรณะโบราณสถาน จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดกำแพงเพชร, 2514.
ภาควิชาศิลปสถาปัตยกรรม. รายงานแบบสำรวจรังวัดโบราณสถานเมืองศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนา ลัย จังหวัดสุโขทัย. กรุงเทพฯ : ภาควิชาศิลปสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2549.
มานพ ถนอมศรี. ศรีสัชนาลัย : โบราณสถานสามสมัย. กรุงเทพฯ : พี พี เวิลด์ มีเดีย, 2546.
เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร. ศูนย์ข้อมูลมรดกโลก (The World Herritage Information Center) (ออนไลน์) เข้าถึงเมื่อ 1 มีนาคม 2558. แหล่งที่มา http://www.thaiwhic.go.th/heritage_culture.aspx
สด แดงเอียด. เมืองเชลียง เชียงชื่น ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2536.
สมัย สุทธิธรรม. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย. กรุงเทพฯ : บริษัท ต้นอ้อ 1999 จำกัด, 2546.
อุดม เชยกีวงศ์. มรดกไทย มรดกโลก : สิ่งล้ำค้าที่ทุกคนในโลกต้องช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่. กรุงเทพฯ : ภูมิปัญญา 2549.
เอนก สีหามาตย์. มรดกโลก อุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2539.