โพสต์เมื่อ 13 ก.ค. 2020
ชื่ออื่น : เพิงหินร่อง2,ห้วยหินร่อง2, เพิงหินร่อง, ห้วยหินร่อง
ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท บ้านติ้ว ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ
ตำบล : เมืองพาน
อำเภอ : บ้านผือ
จังหวัด : อุดรธานี
พิกัด DD : 17.711509 N, 102.360715 E
เขตลุ่มน้ำรอง : ห้วยหินลาด, ห้วยด่านใหญ่, ห้วยหินร่อง, ห้วยนางอุสา, ห้วยโคกขาด
ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 เดินทางจากรุงเทพมหานครมายังจังหวัดอุดรธานีเป็นระยะทาง 564 กิโลเมตร ผ่านตัวเมืองอุดรธานีมุ่งหน้าไปทางจังหวัดหนองคาย เลี้ยวซ้ายที่บริเวณหมู่บ้านนาข่าเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2021 อีก 67 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
เพิงหินหินร่องตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. ภายในอุทยานมีสิ่งอำนวยความสะดวกคือ ศูนย์บริการข้อมูล หอประชุม ห้องสมุด บ้านพักรับรอง ห้องสุขา ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รถสี่ล้อพลังงานไฟฟ้า
อัตราค่าเข้าชม นักท่องเที่ยว ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
การติดต่ออุทยานฯ : อุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี 41160 โทรศัพท์ 042-219837, โทรสาร 042-219838, เว็บไซต์ http://www.finearts.go.th/phuphrabathistoricalpark/
กรมศิลปากร, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ห้วยหินร่อง2 เป็นภาพเขียนสีในกลุ่มห้วยหินร่อง สภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบเชิงเขาทางตอนใต้ของภูพระบาท โดยอยู่ฝั่งทางทิศตะวันออกของภู ภาพเขียนสีในกลุ่มนี้ปรากฏภาพเขียนสีอยู่ 9 แห่ง ได้แก่ ห้วยหินร่อง 1, ห้วยหินร่อง 2, ห้วยหินร่อง 3, เพิงหินด่านใหญ่ 1, เพิงหิน่ดานใหญ่ 2, เพิงหินด่านใหญ่ 3, เพิงหินด่านใหญ่ 4, เพิงหินด่านใหญ่ 5, เพิงหินด่านใหญ่ 6
โดยกลุ่มภาพเขียนสีห้วยหินร่องอยู่ทางตอนใต้ของห้วยหินร่อง ซึ่งเป็นลำห้วยขนาดเล็กที่อยู่ใกล้เคียงและมีตาน้ำอยู่บริเวณของแหล่งภาพเขียนสีห้วยหินร่อง 2 และในส่วนของกลุ่มภาพเขียนสีเพิงหินด่านใหญ่ 1-6 นั้น มีบริเวณครอบคลุมอยู่สองฟากของห้วยดานใหญ่ ซึ่งเป็นลำห้วยขนาดเล็กที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง โดยมีเพิงหินด่านใหญ่ 1 และ 2 อยู่ทางด้านทิศเหนือ และเพิงหินด่านใหญ่ 3-6 อยู่ทางทิศใต้ของลำห้วยด่านใหญ่ (พิทักษ์ชัย จัตุชัย 2553 : 170)
สภาพของแหล่งห้วยหินร่อง 2 ห่างออกจากเพิงหินหินร่อง 1 ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 200 เมตร (กองโบราณคดี 2532ก : 131) เป็นเพิงหินขนาดใหญ่ต่อเนื่องกัน 2 แห่ง และตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดเล็กหลายก้อน โดยหินก้อนบนมีขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 5 เมตร และจากก้อนหินที่ยกสูงขึ้นจึงเกิดเป็นเพิงหินที่มีความลึก 2 เมตร สูงจากพื้น 1 เมตร หลังคาเพิงหินหันไปทางทิศตะวันตก ที่ด้านล่างภายใต้เพิงหินยังมีช่องทางของน้ำที่ไหลซึมอออกมาตลอดทั้งปี และด้านหน้าเพิงหินเป็นแอ่งน้ำธรรมชาติที่มีน้ำขัง (พิทักษ์ชัย จัตุชัย 2553 : 173) ภาพเขียนอยู่บนเพดานหิน อยู่สูงจากพื้น 1.9 เมตร และ 90 เซนติเมตร ผนังที่ใช้เขียนเป็นสีน้ำตาลและชมพู (กองโบราณคดี 2532ก : 131)
ภูพระบาทเป็นภูเขาหินทรายลูกเล็กๆ ลูกหนึ่งในเทือกเขาภูพานหรือภูพานคำ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเฉลี่ยประมาณ 320-350 เมตร พื้นที่ทางทิศตะวันตกของภูมีลักษณะสูงชัน และลาดเทลงมาทางทิศตะวันออก
ภูพานหรือภูพานคำเป็นเทือกเขาหินทรายที่วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ทางตะวันตกของจังหวัดอุดรธานีและแอ่งสกลนคร
สภาพทั่วไปของภูพระบาทเป็นป่าโปร่ง มีพืชพรรณธรรมชาติประเภทไม้เนื้อแข็งขึ้นอยู่ทั่วไป เช่น ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ชิงชัง ไม้ประดู่ ไม้เต็งรัง บนภูพระบาทปรากฏลานหินโล่งกว้าง โขดหิน และเพิงหินทรายกระจัดกระจายอยู่จำนวนมาก เกิดจากการกระทำของน้ำและลมต่อหินทราย
ด้วยเหตุที่มีไม้เนื้อแข็งขึ้นปกคลุมค่อนข้างมาก ประกอบกับพืชพันธุ์ธรรมชาติอื่นๆ อีกมากมาย ภูพระบาทจึงจัดอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเขือน้ำ” เป็นแหล่งกำเนิดของลำธารหลายสาย เช่น ห้วยหินลาด ห้วยด่านใหญ่ ห้วยหินร่อง ห้วยนางอุสา และห้วยโคกขาด ซึ่งไหลลงไปทางทิศตะวันออกบรรจบกับแม่น้ำโขงที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
บริเวณที่ราบรอบภูเขาส่วนใหญ่ทำการเพาะปลูกข้าวและมันสำปะหลัง หุบเขาทางทิศตะวันออกของภูพระบาทเป็นหุบเขาใหญ่ที่สุดมีลักษณะเป็นที่ราบลูกคลื่น พื้นที่ส่วนใหญ่ทำการเพาะปลูกข้าวและมันสำปะหลัง หุบเขานี้เรียกกันทั่วไปว่า หลุบพาน
ห้วยหินลาด, ห้วยด่านใหญ่, ห้วยหินร่อง, ห้วยนางอุสา, ห้วยโคกขาด, ห้วยโมง, แม่น้ำโขง
ภูพระบาทเป็นเนินเขาหินทราย ในแนวเทือกเขาภูพานน้อย บริเวณขอบที่ราบสูงด้านตะวันตกของอุดรธานี หินทรายมีสีขาว ส้ม เนื้อปนกรวด เม็ดกรวดประกอบด้วยควอตซ์ เชิร์ต หินทรายแป้งสีแดง หินอัคนีบางชนิด มีรอยชั้นขวาง มีหินดินดานและหินกรวดมนแทรกสลับ อยู่ในหน่วยหินภูพาน ชุดโคราช อยู่ช่วงล่าง-ช่วงกลางครีเตเชียส หรือประมาณ 90-140 ล้านปีมาแล้ว หินทรายในพื้นที่มีลักษณะโดดเด่นทางด้านธรณีวิทยา เนื่องจากมีคุณสมบัติแตกต่างกันในแต่ละชั้น และได้ผ่านกระบวนการกัดกร่อนทางธรณีวิทยาโดยน้ำและลม ทำให้ได้ลักษณะธรณีสัณฐานที่แปลกตาหลายบริเวณ เช่น หอนางอุษา ถ้ำช้าง หีบศพพ่อตา หีบศพท้าวบารส หีบศพนางอุษา วัดพ่อตา ถ้ำพระ กู่นางอุษา บ่อน้ำนางอุสา เพิงหินนกกระทา พร้อมทั้งพบลักษณะทางธรณีวิทยากายภาพและธรณีโครงสร้างในหินทราย ซึ่งเป็นหินชั้นหรือหินตะกอนที่ชัดเจน เช่นการแสดงชั้นแทรกสลับกับชั้นกรวด การแสดงชั้นวางเฉียงระดับที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของทิศทางการไหลของน้ำ (กรมทรัพยากรธรณี 2552 : 38-39)
ลักษณะรูปร่างต่างๆ เกิดจากชั้นหินทราย และหินทรายปนกรวด มีเนื้อแตกต่างกัน ชั้นหินที่มีความคงทนสูงจะยื่นออกเป็นเพิงหิน หรือเป็นชั้นหินทับอยู่ข้างบน ส่วนชั้นหินที่มีความคงทนน้อยกว่าจะกร่อนหายไป หรือถูกกัดเซาะผุพังเป็นโพรง หรือเป็นส่วนคอดเว้าอยู่ใต้ชั้นหินแข็ง กลายเป็นเพิงหิน หรือผาหิน เช่นหอนางอุษา เป็นต้น
ชื่อผู้ศึกษา : โครงการโบราณคดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2527
วิธีศึกษา : สำรวจ, ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
โครงการโบราณคดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมศิลปากร สำรวจเก็บข้อมูลเพิงหินหินร่อง (กองโบราณคดี 2532ข)ชื่อผู้ศึกษา : สถาพร ขวัญยืน
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2528
วิธีศึกษา : สำรวจ, ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
สถาพร ขวัญยืน และคณะ (2528) โดยโครงการโบราณคดีประเทศไทย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เผยแพร่ผลการศึกษา “ศิลปะบนผนังหิน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี”ชื่อผู้ศึกษา : พเยาว์ เข็มนาค
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2529
วิธีศึกษา : สำรวจ, ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
พเยาว์ เข็มนาค และคณะ สำรวจภาพเขียนสีเพิงหินหินร่อง ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2529 (กองโบราณคดี 2532ก : 127)ชื่อผู้ศึกษา : กรมศิลปากร
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2533
วิธีศึกษา : สำรวจ, ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
กองโบราณคดี กรมศิลปากร เผยแพร่ผลการศึกษาศิลปะถ้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมถึงที่ภูพระบาท (กองโบราณคดี 2532ก)ชื่อผู้ศึกษา : พเยาว์ เข็มนาค, มนต์จันทร์ น้ำทิพย์
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2533
วิธีศึกษา : สำรวจ, ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
เผยแพร่ผลการศึกษาโบราณสถานในภูพระบาทและบ้านผือชื่อผู้ศึกษา : พเยาว์ เข็มนาค
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2539
วิธีศึกษา : ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : กรมศิลปากร
ผลการศึกษา :
เผยแพร่ผลการศึกษาศิลปะถ้ำก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย รวมถึงที่ภูพระบาทชื่อผู้ศึกษา : สุรีรัตน์ บุบผา
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2539
วิธีศึกษา : ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : ม.ศิลปากร
ผลการศึกษา :
สุรีรัตน์ บุบผา (2539) เสนอสารนิพนธ์เรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบแหล่งศิลปะถ้ำระหว่างกลุ่มผาแต้มกับกลุ่มบ้านผือ” ต่อคณะโบราณคดี ม.ศิลปากรชื่อผู้ศึกษา : พัชรี สาริกบุตร
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2543
วิธีศึกษา : ศึกษาศิลปะถ้ำ
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : ม.ศิลปากร
ผลการศึกษา :
ผศ.พัชรี สาริกบุตร คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร รวบรวม ศึกษา และวิเคราะห์ตีความภาพเขียนสีและภาพสลักยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พบในประเทศไทย รวมทั้งเพิงหินหินร่องชื่อผู้ศึกษา : พิทักษ์ชัย จัตุชัย
ปีที่ศึกษา : พ.ศ.2553
วิธีศึกษา : สำรวจ, ศึกษาศิลปะถ้ำ, ศึกษาการตั้งถิ่นฐาน/การใช้พื้นที่
องค์กรร่วม / แหล่งทุน : ม.ศิลปากร
ผลการศึกษา :
พิทักษ์ชัย จัตุชัย เสนอวิทยานิพนธ์เรื่อง “การวิเคราะห์การใช้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี : จากหลักฐานทางโบราณคดี” เพื่อสำเร็จปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์) มหาวิทยาลัยศิลปากรมีลวดลายของภาพเขียนสีที่ปรากฏเป็นจุดๆ อยู่บนทั่วทั้งเพดานของเพิงหิน โดยลวดลายเป็นเส้นสีแดงและส้ม ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม (พิทักษ์ชัย จัตุชัย 2553 : 174 ; กองโบราณคดี 2532ก : 131) คือ
1.บริเวณเพิงหินด้านนอก เขียนเป็นภาพวงกลมที่มีเส้น 2 เส้น แบ่งวงกลมออกเป็น 4 ส่วน ภาพเส้นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดต่อเนื่องกันหลายภาพ
2.บริเวณเพิงหินด้านใน เขียนเป็นลายเส้นคู่ขนานสลับฟันปลา ลายเส้นคู่ขนานรูปกากบาท ลายเส้นมีเส้นทแยงตัดกันคล้ายรูปตาข่าย
การเขียนภาพไม่มีการเตรียมผนังก่อน พื้นที่ใช่เขียนเป็นสีน้ำตาลชมพู และเป็นที่น่าสังเกตว่าภาพเขียนแห่งนี้ได้พบร่องรอยของการเขียนทับรอยกัน 2 ครั้ง ตรงกลุ่มภาพบนหลืบหินที่เป็ยรูปเหลี่ยมต่อกัน จากการที่ภาพเขียนบางส่วนอยู่ต่ำมากนี้เอง จึงสันนิษฐานว่าผู้เขียนนั่งหรือนอนเขียน (พเยาว์ เข็มนาค 2539 : 151)
พเยาว์ เข็มนาค (2539 : 150) สันนิษฐานว่าจากสภาพแหล่งที่เป็นเพิงหลังคายื่นคล้ายหลังคา ที่ใช้บังแดดและฝนได้ ภายในเพิงหินไม่อับ มีอากาศถ่ายเทสะดวก ใต้เพิงหินเป็นลานที่ไม่เรียบเสมอกัน ด้านหน้ามีธารน้ำไหลตลอดเวลา ดังนั้นจึงอาจเหมาะสมกับการเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวหรือประกอบกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งของคนสมัยก่อน
ในขณะที่ พิทักษ์ชัย จัตุชัย (2553 : 175) สันนิษฐานว่าจากลักษณะของแหล่งที่ด้านล่างภายใต้เพิงหินเป็นช่องทางของน้ำที่ไหลซึมออกมาตลอดทั้งปี แหล่งภาพเขียนสีห้วยหินร่อง 2 นี้ จึงไม่เหมาะกับการใช้อยู่อาศัย และเมื่อพิจารณาถึงลวดลายของภาพเขียนที่มีการเขียนซ้อมทับกันอย่างน้อย 2 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงการใช้งานพื้นที่อย่างต่อเนื่องหรือมีความคุ้นเคย ประกอบกับลวดลายภาพเขียนที่พบยังอยู่ในบริเวณเดียวกับทางน้ำไหลผ่าน จึงอาจมีความเกี่ยวกับกับการประกอบพิธีกรรมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับน้ำ หรือการกำหนดขอบเขตพื้นที่การมช้น้ำของกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
กรมทรัพยากรธรณี. การจำแนกเขตเพื่อการจัดการด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณี จังหวัดอุดรธานี. กรุงเทพฯ : กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2552.
กรมศิลปากร. ระบบฐานข้อมูลแหล่งมรดกศิลปวัฒนธรรมและระบบภูมิสารสนเทศ โครงการสำรวจแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม. (ออนไลน์) เข้าถึงเมื่อ 1 กรกฎาคม 2560. แหล่งที่มา http://www.gis.finearts.go.th/gisweb/viewer.aspx
กองโบราณคดี. แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เล่ม 3. เอกสารกองโบราณคดีหมายเลข 11/2532. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2532ก.
กองโบราณคดี. ศิลปะถ้ำในอีสาน กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2532ข.
กองโบราณคดี. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2535.
กองโบราณคดี. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2537.
ธวัชชัย องค์วุฒิเวทย์. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท. กรุงเทพฯ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 2542.
บังอร กรโกวิท. “ภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่อำเภอบ้านผือ.” สารนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (โบราณคดี) คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2519.
พเยาว์ เข็มนาค. ศิลปะถ้ำสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2539.
พเยาว์ เข็มนาค และมนต์จันทร์ น้ำทิพย์. ศิลปะถ้ำ “กลุ่มบ้านผือ” จังหวัดอุดรธานี. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2533.
พัชรี สาริกบุตร. “เพิงหินหินร่อง.” ภาพเขียนสีและภาพสลัก : ศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย. (ออนไลน์), 2543. เข้าถึงเมื่อ 1 พฤษภาคม 2560. แหล่งที่มา http://www.era.su.ac.th/RockPainting/northeast/index.html
พิทักษ์ชัย จัตุชัย. “การวิเคราะห์การใช้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี : จากหลักฐานทางโบราณคดี.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2553.
สถาพร ขวัญยืน และคณะ. ศิลปะบนผนังหิน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี. กรุงเทพฯ : โครงการโบราณคดีประเทศไทย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) กองโบราณคดี กรมศิลปากร, 2528.
สมัย สุทธิธรรม. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท. กรุงเทพฯ : บริษัท ต้นอ้อ 1999 จำกัด, 2546.
สุมิตร ปิติพัฒน์. บ้านผือ ร่องรอยจากอดีต. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2520.
สุรีรัตน์ บุบผา. “การศึกษาเปรียบเทียบแหล่งศิลปะถ้ำระหว่างกลุ่มผาแต้มกับกลุ่มบ้านผือ.” สารนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (โบราณคดี) คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2539.
อรุณศักดิ์ กิ่งมณี และคณะ. ภูพระบาท : อดีตกาลผสานธรรมชาติ. เอกสารประกอบการอบรมยุวมัคคุเทศก์ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท (พ.ศ. 2543) ณ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี 13-15 มี.ค. 2543. อุดรธานี : อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 7 ขอนแก่น, 2543.
อรุณศักดิ์ กิ่งมณี และคณะ. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อุดรธานี. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2542.