โพสต์เมื่อ 13 ก.ค. 2020
ชื่ออื่น : วัดจอมมณี มณีเชษฐาราม
ที่ตั้ง : ถ.แก้ววรวุฒิ ม.1 บ้านจอมมณี ต.มีชัย (เทศบาลเมืองหนองคาย) อ.เมืองหนองคาย
ตำบล : มีชัย
อำเภอ : เมือง
จังหวัด : หนองคาย
พิกัด DD : 17.876169 N, 102.716802 E
เขตลุ่มน้ำหลัก : โขง
เขตลุ่มน้ำรอง : ห้วยวังฮู
วัดจอมมณี ตั้งอยู่ริมถนนแก้ววรวุฒิ (ทางหลวงหมายเลข 242) ภายในตัวจังหวัดหนองคายหรือในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1
จารึกวัดจอมมณีได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากทางวัด ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมจารึกและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดจอมมณีได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
หมายเลขโทรศัพท์วัดจอมมณี 042-421-277
วัดจอมมณี, กรมศิลปากร
ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ คือ จารึกวัดจอมมณี
วัดจอมมณี ตั้งอยู่ริมถนนแก้ววรวุฒิ (ทางหลวงหมายเลข 242) ภายในตัวจังหวัดหนองคายหรือในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 สภาพโดยรอบเป็นชุมชนหนาแน่น สภาพพื้นที่เป็นที่ราบริมแม่น้ำโขง เกิดจากการทับถมของตะกอนตะพักลำน้ำ
แม่น้ำโขง, ห้วยวังฮู
สภาพพื้นที่เป็นที่ราบริมแม่น้ำโขง เกิดจากการทับถมของตะกอนตะพักลำน้ำในสมัยโฮโลซีน
วัดจอมมณีเป็นวัดราษฎร์ สังกัดมหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2460 ได้รับพระราชทางวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2533 หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญภายในวัดคือ จารึกตัวอักษรไทยน้อย 1 หลัก ซึ่งได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุแล้ว
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญภายในวัด ได้แก่ จารึก 1 หลัก ปัจจุบันปักตั้งอยู่ที่แท่นปูนเบื้องหน้าด้านซ้ายของอุโบสถ ภายในกำแพงแก้ว มีการสร้างหลังคาขนาดเล็กคลุมจารึก
จารึกวัดจอมมณี ทำจากหินทราย ลักษณะเป็นทรงใบเสมา กว้าง 70 เซนติเมตร สูง 110 เซนติเมตร หนา 8 เซนติเมตร จารึกตัวอักษรไทยน้อย ภาษาไทย ทั้ง 2 ด้าน ค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2518 สภาพผิวจารึกบางส่วนแตกร่อนหลุดออก โดยเฉพาะด้านที่ 2 ผิวหินแตกร่อนออกเป็นส่วนใหญ่
เนื้อหาโดยสังเขปของจารึกด้านที่ 1 (ด้านที่หันเข้าหาอุโบสถหรือหันไปทางทิศใต้) เป็นพระบรมราชโองการของสมเด็จพระบรมบพิตรเป็นเจ้าเหนือหัว (พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช) และพระราชมารดา (พระนางยอดคำ หรือ พระนางหอสูง พระราชธิดาพระเมืองเกษเกล้าแห่งอาณาจักรล้านนา พระอัครมเหสีพญาโพธิสาลราช) ให้พระยานครและขุนนางผู้ใหญ่สร้างศิลาจารึกหลักนี้ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา รวมทั้งกำหนดเขตกัลปนาที่ดิน และอุทิศทาสโอกาสแก่วัด
ข้อความบรรทัดที่ 1 ของจารึกด้านที่ 1 ระบุ จ.ศ.917 ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2098 อันเป็นสมัยที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชปกครองราชอาณาจักรล้านช้าง (พ.ศ.2093-2115)
ส่วนจารึกด้านที่ 2 สร้างสมัยพระมหาธรรมิกราชาธิราช กล่าวถึงการถวายที่ดินแก่วัดมณีเชษฐาราม
ชื่อกษัตริย์ “พระมหาธรรมิกราชาธิราช” อาจเป็นพระวรวงศาธรรมิกราชที่ปกครองราชอาณาจักรล้านช้างในช่วง พ.ศ.2141-2165 หรือพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชที่ปกครองราชอาณาจักรล้านช้างในช่วง พ.ศ.2181-2238 พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าวัดจอมมณีจะเป็นวัดมณีเชษฐารามตามที่ปรากฏในจารึก เนื่องจากจารึกอาจถูกเคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น ประกอบกับยังไม่พบโบราณสถานและหลักฐานทางโบราณคดีอื่นๆ ในพื้นที่วัดจอมมณีที่ร่วมสมัยกับจารึก
ธวัช ปุณโณทก. “ศิลาจารึกวัดจอมมณี.” ใน ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย-ลาว : ศึกษาทางด้านอักขรวิทยาและประวัติศาสตร์อีสาน. กรุงเทพฯ : คุณพินอักษรกิจ, 2530 หน้า 247-253.
นวพรรณ ภัทรมูล. “จารึกวัดจอมมณี.” ใน ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). (ออนไลน์). เข้าถึงเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2557” เข้าถึงจาก http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_detail.php?id=2369
บุณนาค สะแกนอก. “จารึกวัดจอมมณี.“ ใน จารึกในประเทศไทย เล่ม 5 : อักษรธรรมและอักษรไทย พุทธศตวรรษที่ 19-24. กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2529, 336-343.
สิลา วีระวงส์ (เรียบเรียง), สมหมาย เปรมจิตต์ (แปล). ประวัติศาสตร์ลาว. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : มติชน, 2540, หน้า 84-106, 111-114, 117-126.