โพสต์เมื่อ 13 ก.ค. 2020
ที่ตั้ง : ม.1 บ้านหนองขาว ต.หนองขาว (เทศบาลตำบลหนองหญ้าดอกขาว) อ.ท่าม่วง
ตำบล : หนองขาว
อำเภอ : ท่าม่วง
จังหวัด : กาญจนบุรี
พิกัด DD : 14.055213 N, 99.643035 E
เขตลุ่มน้ำหลัก : แม่กลอง
วัดโบสถ์ (ร้าง) ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม ในตัวตำบลหนองขาว หากเดินทางจากตัวจังหวัดกาญจนบุรี ให้ใช้ถนนอู่ทอง (ทางหลวงหมายเลข 324) มุ่งหน้าตำบลหนองขาว (อำเภอท่าม่วง) ประมาณ 11.8 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนเทศบาล 7 ประมาณ 550 เมตร จะพบสะพานข้ามคลองประทาน ตรงข้ามสะพานไปประมาณ 650 เมตร พบโรงเรียนหนองขาวโกวิทพิยาคมอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่โรงเรียนไปประมาณ 150 เมตร จะพบเจดีย์วัดโบสถ์อยู่ทางขวามือ ข้างสนามฟุตบอล
เจดีย์วัดโบสถ์เป็นโบราณสถานร้างที่มีสภาพชำรุดเสียหาย ยังไม่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ แต่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากชุมชนปัจจุบัน โดยเฉพาะจากคุณครูและนักเรียนโรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม มีการปรับภูมิทัศน์รอบองค์เจดีย์ให้มีความเรียบร้อยสวยงาม
ผู้สนใจเข้าเยี่ยมสามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม ม.1 บ้านหนองขาว ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110 โทรศัพท์ 034-586-114 โทรสาร 034-586-114
โรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม (สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน), เทศบาลตำบลหนองดอกหญ้าขาว
วัดโบสถ์ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในโรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม ในตัวตำบลหนองขาว ลักษณะทางภูมิศาสตร์โดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ หากพิจารณาจากสภาพพื้นที่แล้วอาจกล่าวได้ว่า วัดโบสถ์ตั้งอยู่บนเนินดินที่แยกออกจากเนินดินใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของตัวตำบลหนองขาวในปัจจุบัน
เนินดินวัดโบสถ์มีขนาดยาวประมาณ 800 เมตร (ตามแนวทิศเหนือ-ใต้) กว้างประมาณ 350 เมตร (ตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก) อยู่ห่างออกจากเนินดินใหญ่มาทางทิศตะวันออกประมาณ 600 เมตร ล้อมรอบไปด้วยพื้นทีเกษตรกรรม มีคลองชลประทานและพื้นที่เกษตรกรรมคั่นระหว่างเนินดินทั้งสอง มีร่องรอยลำน้ำโบราณสายเล็กๆ อยู่ทางทิศตะวันตกของเนินดิน (หรืออยู่ทางทิศตะวันออกของเนินดินใหญ่) ส่วนเนินดินใหญ่มีร่องรอยลำน้ำสายเล็กๆ ไหลผ่านอยู่โดยรอบ ปัจจุบันเจดีย์วัดโบสถ์ตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำแม่กลองมาทางทิศเหนือประมาณ 9.3 กิโลเมตร
แม่น้ำแม่กลอง
ที่ราบลุ่มแม่น้ำแม่กลองที่เกิดจากการทับถมของตะกอนน้ำพาในสมัยโฮโลซีน
ไม่ทราบประวัติความเป็นมาของเจดีย์วัดโบสถ์ (ร้าง) ที่แน่ชัด แต่มีประวัติศาสตร์ท้องถิ่นระบุว่าเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี กาญจนบุรีเป็นเมืองหน้าด่านและเป็นเส้นทางเดินทัพ ในขณะนั้นตำบลหนองขาวประกอบด้วย 2 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านดงรัง (มีวัดประจำหมู่บ้านคือวัดส้มใหญ่หรือวัดใหญ่ดงรัง) และหมู่บ้านดอนกระเดื่อง (มีวัดโบสถ์เป็นวัดประจำหมู่บ้าน)
การศึกกับพม่าในสมัยอยุธยาตอนปลายนั้น ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านได้รวมตัวกันต่อสู้กับข้าศึกอย่างกล้าหาญ (ยังมีหลักฐานพื้นที่สู้รบอยู่ที่ทุ่งคูในตำบลหนองขาวปัจจุบัน) จนหมู่บ้านถูกทำลายเสียหาย เหลือเพียงซากวัดและเจดีย์ หลังสงครามยุติชาวบ้านได้พากันหลบหนีมารวมตัวกันที่บริเวณหนองน้ำใหญ่ ตั้งเป็นหมู่บ้าน “บ้านหนองหญ้าดอกขาว”
ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์หลายพระองค์เสด็จยังบ้านดอกหนองหญ้าขาว เนื่องจากเป็นเส้นทางผ่านไปยังกาญจนบุรี เช่น รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จยังเมืองกาญจน์และผ่านหนองขาวดังพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ของเจ้าพระยาทิพากรวงค์ กล่าวว่า รุ่งขึ้นวันศุกร์ แรม 14 ค่ำ เสด็จจากพลับพลาเมืองกาญจน์ถึงพลับพลาบ้านหนองขาว ประทับแรมอยู่หนึ่งราตรี และได้ทรงพระราชนิพนธ์ในกลอนไดอารี่ซึมซาบตอนหนึ่งว่า
“ราษฎรพากันดาษดื่นเห็นแต่นั่งหน้าพลับพลากว่าห้าร้อย มีเขียนโต๊ะ ขันหมาก ขันพานบ้านนอก ข้าวหลามสี่ห้ากระบอก ขนมไหม้ จัดตามมีตามจนกันคนละเล็กละน้อยมานั่งคอยถวายล้อมอยู่พร้อมเพรียง ทรงปราศรัยไปทุกหน้าที่มานั้นก็ทูลกันสนองออกซ้องเสียง ฟังเหน่อหน่าตามประสาแปร่งสำเนียง บางขึ้นเสียงทานขัดคอกัน”
หมู่บ้านหนองขาวได้เจริญขึ้นตามลำดับจวบจนปัจจุบัน วัดส้มใหญ่หรือวัดใหญ่ดงรังซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านดงรังยังคงอยู่ในปัจจุบัน แต่วัดโบสถ์วัดประจำหมู่บ้านดอนกระเดื่องถูกทิ้งร้างไป ปัจจุบันพื้นที่วัดโบสถ์กลายเป็นที่ตั้งโรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงเจดีย์เท่านั้น โดยชาวบ้านกล่าวว่าเจดีย์ที่เห็นเป็นเพียงส่วนยอด ส่วนฐานนั้นจมลึกลงไปในดิน นอกจากนี้ ช่วงที่มีการไถพื้นที่เพื่อสร้างสนามฟุตบอลของโรงเรียนได้มีการพบของเก่าแก่จำนวนมาก
ร่องรอยโบราณสถานวัดโบสถ์ปรากฏเพียงเจดีย์ ตั้งอยู่ระหว่างสนามฟุตบอลและอาคารเรียนของโรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม (อยู่ทางทิศเหนือของสนามฟุตบอล ทางทิศใต้ของอาคารเรียน) สภาพพื้นที่เป็นที่โล่ง ปลูกหญ้า ไม้ประดับ และไม้ยืนต้นอื่นๆ ล้อมด้วยพื้นที่โล่ง ปรากฏหลักฐานเป็นเจดีย์ร้าง ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม
สภาพเจดีย์เป็นเจดีย์ที่ถูกทิ้งร้าง ยังไม่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ เป็นเจดีย์ย่อมุม ก่ออิฐถือปูน ปรากฏเฉพาะส่วนฐานและองค์ระฆัง ฐานเป็นชุดฐานสิงห์ มีความกว้างด้านละ 1.5 เมตร ส่วนใหญ่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม มีเพียงส่วนองค์ระฆังและฐานบัวชั้นบนสุดเท่านั้นที่อยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ส่วนฐานสิงห์ยังปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนที่ด้านทิศเหนือ ตะวันออก และใต้ ความสูงจากพื้นใช้งานปัจจุบันถึงส่วนบนสุดประมาณ 3 เมตร จากลักษณะสถาปัตยกรรมและประวัติพื้นที่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเจดีย์องค์นี้น่าจะถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย
ส่วนฐานด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ทั้งหมดถูกเจาะเป็นโพรงขนาดใหญ่ ทำให้เห็นภายในองค์เจดีย์ที่เป็นช่องโล่ง ด้านทิศเหนือของเจดีย์หรือด้านอาคารเรียนมีป้าย “เจดีย์เก่าวัดโบสถ์” ปักอยู่
เจดีย์วัดโบสถ์ (ร้าง) ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถาน