วัดเจษฎาราม


โพสต์เมื่อ 7 เม.ย. 2022

ชื่ออื่น : วัดธรรมสังเวช, วัดกระเจ็ด

ที่ตั้ง : เลขที่ 193 ถ.เจษฎาวิถี

ตำบล : มหาชัย

อำเภอ : เมือง

จังหวัด : สมุทรสาคร

พิกัด DD : 13.55007 N, 100.291829 E

เขตลุ่มน้ำหลัก : ท่าจีน

เขตลุ่มน้ำรอง : คลองมหาชัย, คลองกระเจ็ด

เส้นทางเข้าสู่แหล่ง

จากตัวเมืองสมุทรสาครใช้ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3242 เส้นทางไปโรงพยาบาล เลี้ยวขวาไปตามถนนสมุทรสาคร-โคกขาม หมายเลข 3432 ข้ามสะพานข้ามคลองมหาชัย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงชนบท 2004 ประมาณ 700 เมตร ขวามือเป็นที่ตั้งของวัดเจษฎาราม

ประโยชน์ทางการท่องเที่ยว

เป็นแหล่งท่องเที่ยว

รายละเอียดทางการท่องเที่ยว

เป็นพุทธศาสนสถานที่ยังคงมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน มีงานทำบุญประจำปีในวันแรม 11 ค่ำ เดือน 5 มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นสนามสอบพระปริยัติธรรมสนามหลวงแผนกธรรมและแผนกบาลีประจำจังหวัดสมุทรสาคร ดำเนินกิจกรรมในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

หน่วยงานที่ดูแลรักษา

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, วัดเจษฎาราม

การขึ้นทะเบียน

ไม่ขึ้นทะเบียน

ภูมิประเทศ

ที่ราบ

สภาพทั่วไป

สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ วัดเจษฎารามตั้งอยู่ริมถนนเจษฎาวิถีและริมคลองมหาชัย ในตัวจังหวัดสมุทรสาครหรือภายในเทศบาลนครสมุทรสาคร อาณาเขตทิศเหนือติดกับคลองมหาชัย ทิศใต้เป็นถนนเจษฎาวิถี ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกมีคลองกระเจ็ดกั้นเป็นเขตแดนระหว่างวัดกับที่ดินเอกชน มีพื้นที่ตั้งวัด 57 ไร่ 3 งาน 53 ตารางวา

ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

1-2 เมตร

ทางน้ำ

คลองมหาชัย, แม่น้ำท่าจีน

สภาพธรณีวิทยา

ดินชุดท่าจีน เป็นดินเค็มชายฝั่งทะเล ลักษณะเป็นดินเลน เนื้อดินเหนียวและเค็มจัด เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่เป็นดินเค็มเพราะน้ำทะเลท่วมถึง และระดับน้ำใต้ดินขึ้นมาสูงเกือบถึงหน้าดินตลอดปี (คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมาย 2543 : 3)

ยุคทางโบราณคดี

ยุคประวัติศาสตร์

สมัย/วัฒนธรรม

สมัยรัตนโกสินทร์

อายุทางโบราณคดี

พ.ศ.2401

ประวัติการศึกษา

ไม่พบผลลัพธ์

ประเภทของแหล่งโบราณคดี

ศาสนสถาน

สาระสำคัญทางโบราณคดี

วัดเจษฎาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เดิมเคยเป็นพื้นที่วัดร้างมาก่อน โดยมีเนินดินอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งของอุโบสถเก่า ปัจจุบันได้ปรับพื้นเป็นที่ราบไปหมดแล้ว ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2401 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระอาจารย์น่วม พระภิกษุจากวัดแสมดำ พร้อมด้วยคหบดีตำบลมหาชัยซึ่งเป็นพี่น้องกัน คือนายแฟบ นางน้อย และนางอิ่ม และชาวบ้านได้ร่วมใจกันทำการก่อสร้างวัดขึ้นใหม่ มีพระสงฆ์จำพรรษาตลอดมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 140 ปี และได้ขนานนามว่า “วัดธรรมสังเวช” แต่ประชาชนนิยมเรียกว่า “วัดกระเจ็ด” ตามชื่อคลองกระเจ็ด ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของวัด ในราวปีวอก พ.ศ.2439 เจ้าจอมมารดาโหมด (เจ้าจอมมารดาของ(พระมารดาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์เจ้าหญิงอรอนงค์อรรถยุพา และกรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส) ในรัชกาลที่ 5 ได้เดินทางมายังตำบลมหาชัย และพักแรมอยู่บริเวณวัดนี้ ท่านเจ้าจอมมารดาโหมดได้ขนานนามวัดให้ใหม่จาก “วัดธรรมสังเวช” ให้มีนามว่า “วัดเจษฎาราม” (กองพุทธศาสนสถาน 2545 : 14-15) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อพ.ศ. 2480 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ได้รับพระราชทานยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2531

วัดเจษฎารามเป็นสถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ มณฑลพระราชพิธีที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530 เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในอดีตทางราชการได้ใช้สถานที่วัดนี้หล่อรูปพันท้ายนรสิงห์ และได้เชิญไปประดิษฐาน ณ ที่ตั้งศาลที่ตำบลโคกขามเดิม

วัดเจษฎาราม เป็นวัดที่ราษฎรสร้างขึ้นแต่มีความสำคัญด้วยเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของทางราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีโอกาสรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช และพระมหาเถระหลายรูป นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นสนามสอบพระปริยัติธรรมสนามหลวงแผนกธรรมและแผนกบาลีประจำจังหวัดสมุทรสาคร ดำเนินกิจกรรมในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์และสังคมสงเคราะห์หลายประการ ด้วยคุณสมบัติของการเป็นวัดที่ช่วยเชิดชูพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสมควรได้รับเกียรติยกย่องเป็นพิเศษ กระทรวงศึกษาธิการจึงขอพระราชทานยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดเจษฎารามขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2531 เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างประจำปี 2516

เจ้าอาวาสที่ปกครองวัดเจษฎารามมีรายนามดังต่อไปนี้

     รูปที่ 1 พระอธิการน่วม ปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2401-2418

     รูปที่ 2 พระอธิการยา ปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2424-2449

     รูปที่ 3 พระอธิการบัว จงทรงสี ปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2450-2462 และเป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบล) มหาชัย

     รูปที่ 4 พระครูมหาชัยบริรักษ์ (เชย ญาณวฑฒโน) ปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2462-2500 เป็นเจ้าคณะตำบลมหาชัย และเจ้าคณะอำเภอเมืองสมุทรสาคร (ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมื่อ พ.ศ.2484 เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรง)

     รูปที่ 5 พระราชสาครมุนี (ชะวร โอภาโส ป.ธ.4 น.ธ.เอก) ปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2501-2535 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครเมื่อ พ.ศ.2521 และเป็นเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครเมื่อ พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชสาครมุณี ศรีกิจจานุกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี เมื่อ พ.ศ.2530

     รูปที่ 6 พระครูสาครเจษฎานุยุต (พิเชษฐ ธมมธโร) ปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2536 จนถึงปัจจุบัน

ด้านการศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ.2480 โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี เปิดสอนเมื่อ พ.ศ.2503 และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เปิดสอนเมื่อ พ.ศ.2530

ภายในวัดมีสิ่งสำคัญได้แก่ พระประธานในพระอุโบสถปางมารวิชัย  พระพุทธรูปยืนปางถวายเนตรหน้าพระอุโบสถ รอยพระพุทธบาทจำลอง ต้นศรีมหาโพธิ์ และรูปหล่อพระครูชัยบริรักษ์ (หลวงปู่เชย) อดีตเจ้าอาวาสซึ่งเป็นที่เคารพของชาวมหาชัยและตำบลใกล้เคียง

แผนผังโดยรวมและอาคารสำคัญต่างๆ ภายในวัด เช่น พระอุโบสถและวิหาร หันไปทางคลองมหาชัยหรือหันไปทางทิศเหนือ (เอียงไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อย)

อาคารสิ่งก่อสร้างภายในวัดล้วนแล้วแต่เป็นอาคารใหม่ ส่วนพระอุโบสถปี 2559 อยู่ในระหว่างการก่อสร้างใหม่ โดยสร้างในตำแหน่งพระอุโบสถหลังเดิมที่ทุบทิ้ง (พระอุโบสถหลังเดิมเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ตามประวัติระบุว่าสร้างเมื่อ พ.ศ.2440) ด้านหน้าสถานที่ก่อสร้างพระอุโบสถก่อสร้างเป็นศาลาชั่วคราวประดิษฐานพระพุทธรูปจากพระอุโบสถหลังเดิม (รออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระอุโบสถหลังใหม่) พระพุทธรูปที่สำคัญ ได้แก่

1. พระประธานของพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอกเศษ ลงรักปิดทอง ลักษณะศิลปกรรมมีอิทธิพลศิลปะจีน ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อโต” ตามประวัติกล่าวว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2439 โดยมีพระอธิการยาเป็นประธานจัดสร้าง และมีพระโมคคัลลาน์ – พระสารีบุตร ประดิษฐานอยู่เบื้องซ้าย-ขวา

2. พระพุทธรูปยืนปางถวายเนตร ลงรักปิดทอง สูง 6 ศอก เดิมประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ พระครูมหาชัยบุรีรักษ์ เป็นประธานจัดสร้างเมื่อ พ.ศ.2488

3. รอยพระพุทธบาทจำลอง ขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาว 4 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.2494

4. รูปหล่อพระครูมหาชัยบริรักษ์ (เชย ญาณวฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัด ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลวงพ่อเชย ทางวัดจัดให้มีงานบำเพ็ญกุศลถวายในวันแรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๕ เป็นประจำทุกปี

5. ต้นพระศรีมหาโพธิ เป็นต้นที่สืบเนื่องมาจากต้นพระศรีมหาโพธิตรัสรู้ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ) วัดพระเชตุพนฯ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระวันรัตเป็นประธานปลูก เมื่อ พ.ศ.2514

ผู้เรียบเรียงข้อมูล-ผู้ดูแลฐานข้อมูล

ภาวิณี รัตนเสรีสุข, ทนงศักดิ์ เลิศพิพัฒน์วรกุล

บรรณานุกรม

กองพุทธศาสนสถาน กรมศาสนา. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 21. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา, 2545.

คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ. วัฒนธรรม พัฒนาการ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสมุทรสาคร. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2543.

ประวัติวัดในจังหวัดสมุทรสาคร สังกัดมหานิกาย จำนวน 96 วัด. เอกสารโรเนียว. จัดเก็บอยู่ในสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี, ม.ป.ป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดี