ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ วัดพระเจ้าองค์ดำเป็นโบราณสถานร้าง ชื่อของวัดมาจากชาวบ้านเรียก เนื่องจากมีการพบพระพุทธรูปสำริดที่ถูกไฟไหม้จนเป็นสีดำ คาดว่าสร้างขึ้นในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 21
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เนินพญามังรายเป็นชื่อเรียกกันตั้งแต่โบราณสถานยังมีสภาพเป็นเนินดิน ที่ตั้งอยู่คู่กับเนินพระเจ้าองค์ดำ จากรูปแบบโบราณสถานสันนิษฐานว่ามีอายุสมัยราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ชื่อของวัดหัวหนองเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียก สันนิษฐานว่าอาจเนื่องมาจากวัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหนองน้ำ ไม่ปรากฏประวัติการสร้าง แต่จากรูปแบบสถาปัตยกรรมสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20-21
ตั้งอยู่ที่บ้านช้างค้ำ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หรือภายในเมืองเวียงกุมกามใกล้กับกำแพงเวียงด้านทิศเหนือ มีเรื่องราวบันทึกอยู่ในตำนานชินกาลมาลีปกรณ์ว่า เมื่อ พ.ศ.2060 พระเมืองแก้วได้เสด็จมาสรงน้ำพระมหาพุทธพิมพ์ที่วัดเกาะกุมกาม และอัญเชิญพระพุทธรูปสำริดขึ้นประดิษฐาน ณ วัดกุมกาม
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โบราณสถานสำคัญประกอบด้วย เจดีย์ วิหาร แท่นบูชารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โบราณวัตถุสำคัญได้แก่ พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา พระพิมพ์ดินเผา (พระสิบสอง) กำหนดอายุได้ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 20
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เดิมในบริเวณโบราณสถานมีต้นไม้ที่ชาวบ้านเรียกว่า ไม้ซ้ง ขึ้นปกคลุมอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อโบราณสถาน คาดว่าน่าจะสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ต.หนองหอย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โบราณสถานประกอบด้วย วิหาร เจดีย์ แท่นบูชา กำแพงแก้ว และซุ้มประตู โบราณวัตถุสำคัญได้แก่ พระพุทธรูปแก้วสีเขียวปางมารวิชัย กำหนดอายุได้ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 21 – 22 และน่าจะมีการบูรณะเรื่อยมาจนกระทั่งถึงพุทธศตวรรษที่ 23
ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ แต่เดิมโบราณสถานตั้งอยู่บนที่ดินของป้าด้อม ชาวบ้านจึงเรียกโบราณสถานตามชื่อเจ้าของที่ดินว่า วัดกู่ป้าด้อม สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ตั้งอยู่ ม.2 บ้านไร่เพนียด ต.บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี จากรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของเจดีย์สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุอยู่ในช่วงตั้งแต่กลางพุทธศตวรรษที่ 23 อาจสัมพันธ์กับเหตุการณ์เมื่อครั้งขุนหลวงสรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ) เสด็จมาล้อมช้างที่เพชรบุรี ซึ่งสอดคล้องกับชื่อบ้านไร่เพนียด
โรงพยาบาลระยอง เลขที่ 138 ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ (เทศบาลนครระยอง) อ.เมืองระยอง จ.ระยอง จากประวัติระบุว่าเจดีย์องค์นี้เป็นเจดีย์ของวัดโบราณชื่อ “วัดจันทอุดม” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดเก๋ง” เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 วัดเก๋งเป็นพระอารามแห่งแรกที่จัดการศึกษาเทียบเท่าระดับมัธยมขึ้นในจังหวัดระยอง เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีต่างๆ เช่น พิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการ
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านได้ทำการขุดโบราณสถานนี้ พบพระพิมพ์และวัตถุทางศาสนาในบริเวณโบราณสถานเป็นจำนวนมาก จากหลักฐานที่ปรากฏทั้งรูปแบบโบราณสถานและอิฐจารึกอักษรฝักขาม สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เนื่องจากตั้งอยู่บนที่ดินของนายหลาน จึงเรียกชื่อตามเจ้าของที่ดิน โบราณสถานวัดกู่อ้ายหลาน ประกอบด้วย วิหาร เจดีย์ กำแพงแก้ว และซุ้มโขง สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 19 – 21
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ชื่อมาจากที่โบราณสถานติดกับที่ดินของนายสี โบราณสถานประกอบด้วย เจดีย์ วิหาร แท่นบูชา และแนวกำแพงแก้วทางด้านทิศใต้ของวิหาร น่าจะสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ที่มาของชื่อโบราณสถานมาจากเดิมบริเวณโบราณสถานมีลักษณะเป็นเนินที่มีต้นมะเกลือขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่ โบราณสถานประกอบด้วยวิหาร เจดีย์ และกำแพงแก้ว น่าจะสร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 21–22
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ บริเวณโบราณสถานแต่เดิมมีต้นริดไม้หรือต้นเพกาขึ้นเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกโบราณสถานแห่งนี้ว่า วัดกู่ริดไม้ โบราณสถานสำคัญคือ วิหาร เจดีย์ ฐานโบาณสถานแปดเหลี่ยม กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21
ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ คำว่า “จ๊อกป๊อก” เป็นภาษาถิ่นเหนือมีความหมายว่า สิ่งก่อสร้างขนาดกลางที่เป็นเนินหรือมียอด โบราณสถานสำคัญคือวิหารและเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน น่าจะสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ชื่อโบราณสถานตั้งตามชื่อเจ้าของที่ดิน โบราณสถานประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างและอาคารประเภทต่าง ๆ จำนวน 13 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 – 21
รอยพระบาทหลังเต่า อยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท บ้านเมืองพาน ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนลานหินบริเวณสันเขาทางทิศใต้ของภูพระบาท ที่มาของชื่อพระพุทธบาทหลังเต่า มาจากก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งที่อยู่บริเวณใกล้เคียง มีลักษณะด้านบนโค้งและมีลวดลายคล้ายหลังเต่า ชาวบ้านจึงเรียกพระพุทธบาทที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันว่า “พระพุทธบาทหลังเต่า”
ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ชื่อวัดมาจากชาวบ้านเรียกต่อ ๆ กันมา เพราะแต่เดิมบริเวณเนินโบราณสถานเคยมีตอต้นมะม่วงขนาดใหญ่ โบราณสถานประกอบด้วยวิหาร แนวกำแพงแก้ว และอาคารในผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า น่าจะมีอายุการสร้างอยู่ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เดิมเรียกว่า โบราณสถานใกล้วัดกุมกาม โบราณสถานประกอบด้วยวิหารหน้าเจดีย์ และแนวกำแพงแก้วด้านทิศใต้ และทิศตะวันตก สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21