ตังอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท บ้านติ้ว ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ปรากฏภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ เขียนด้วยสีแดงเป็นลายคดคล้ายงูภาพเดียว เป็นการเขียนแบบหยาบๆ ทำนองไม่ตั้งใจเขียน คล้ายทดลองแปร
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีอีกชื่อว่า วัดกู่คำ สร้างขึ้นในสมัยที่พญามังรายสถาปนาเมืองเวียงกุมกาม มีการบูรณะครั้งใหญ่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยหลวงโยนการวิจิตร คหบดีชาวมอญ ทำให้มีลักษณะเป็นแบบศิลปะพม่าดังปัจจุบัน
กองหินที่ลานสาวเอ้ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ปรากฏลวดลายภาพเขียนสีแดงยุคก่อนประวัติศาสตร์ เป็นเส้นแนวตั้งเรียงกันเป็นแถวจำนวน 22 เส้น และมีเส้นแนวนอนเชื่อมด้านล่างหลายช่วง นอกจากนี้ยังพบเศษภาชนะดินเผาเนื้อแกร่ง สีเทาเข้มและดำ ตกแต่งด้วลายขูดขีดเป็นเส้นคู่ขนานรอบคอภาชนะ
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีเรื่องเล่าท้องถิ่นว่ามีนางค่างตัวหนึ่งทำประโยชน์แก่พระราชามาก เมื่อนางค่างตายลงพระราชาจึงสร้างจึงสร้างวัดนี้ให้แก่นางค่างตัวนี้ และจากรูปแบบโบราณสถานสันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุระหว่างปลายพุทธศตวรรษที่ 21 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 22
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จากรูปแบบทางสถาปัตยกรรม และโบราณวัตถุสำคัญที่นำมากำหนดอายุการสร้างคือ อิฐจารึกอักษรฝักขาม จึงสันนิษฐานได้ว่าวัดธาตุขาว น่าจะสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ วัดพระเจ้าองค์ดำเป็นโบราณสถานร้าง ชื่อของวัดมาจากชาวบ้านเรียก เนื่องจากมีการพบพระพุทธรูปสำริดที่ถูกไฟไหม้จนเป็นสีดำ คาดว่าสร้างขึ้นในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 21
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เนินพญามังรายเป็นชื่อเรียกกันตั้งแต่โบราณสถานยังมีสภาพเป็นเนินดิน ที่ตั้งอยู่คู่กับเนินพระเจ้าองค์ดำ จากรูปแบบโบราณสถานสันนิษฐานว่ามีอายุสมัยราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ชื่อของวัดหัวหนองเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียก สันนิษฐานว่าอาจเนื่องมาจากวัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหนองน้ำ ไม่ปรากฏประวัติการสร้าง แต่จากรูปแบบสถาปัตยกรรมสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20-21
ตั้งอยู่ที่บ้านช้างค้ำ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หรือภายในเมืองเวียงกุมกามใกล้กับกำแพงเวียงด้านทิศเหนือ มีเรื่องราวบันทึกอยู่ในตำนานชินกาลมาลีปกรณ์ว่า เมื่อ พ.ศ.2060 พระเมืองแก้วได้เสด็จมาสรงน้ำพระมหาพุทธพิมพ์ที่วัดเกาะกุมกาม และอัญเชิญพระพุทธรูปสำริดขึ้นประดิษฐาน ณ วัดกุมกาม
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โบราณสถานสำคัญประกอบด้วย เจดีย์ วิหาร แท่นบูชารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โบราณวัตถุสำคัญได้แก่ พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา พระพิมพ์ดินเผา (พระสิบสอง) กำหนดอายุได้ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 20
ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เดิมในบริเวณโบราณสถานมีต้นไม้ที่ชาวบ้านเรียกว่า ไม้ซ้ง ขึ้นปกคลุมอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อโบราณสถาน คาดว่าน่าจะสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ต.หนองหอย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โบราณสถานประกอบด้วย วิหาร เจดีย์ แท่นบูชา กำแพงแก้ว และซุ้มประตู โบราณวัตถุสำคัญได้แก่ พระพุทธรูปแก้วสีเขียวปางมารวิชัย กำหนดอายุได้ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 21 – 22 และน่าจะมีการบูรณะเรื่อยมาจนกระทั่งถึงพุทธศตวรรษที่ 23
ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ แต่เดิมโบราณสถานตั้งอยู่บนที่ดินของป้าด้อม ชาวบ้านจึงเรียกโบราณสถานตามชื่อเจ้าของที่ดินว่า วัดกู่ป้าด้อม สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 21 – 22
ตั้งอยู่ ม.2 บ้านไร่เพนียด ต.บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี จากรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของเจดีย์สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุอยู่ในช่วงตั้งแต่กลางพุทธศตวรรษที่ 23 อาจสัมพันธ์กับเหตุการณ์เมื่อครั้งขุนหลวงสรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ) เสด็จมาล้อมช้างที่เพชรบุรี ซึ่งสอดคล้องกับชื่อบ้านไร่เพนียด
โรงพยาบาลระยอง เลขที่ 138 ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ (เทศบาลนครระยอง) อ.เมืองระยอง จ.ระยอง จากประวัติระบุว่าเจดีย์องค์นี้เป็นเจดีย์ของวัดโบราณชื่อ “วัดจันทอุดม” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดเก๋ง” เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 วัดเก๋งเป็นพระอารามแห่งแรกที่จัดการศึกษาเทียบเท่าระดับมัธยมขึ้นในจังหวัดระยอง เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีต่างๆ เช่น พิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการ